จังหวัดเชียงใหม่เชิญร่วมงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่เชิญร่วมงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2557 โดยหลายภาคส่วนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมตลอดงาน

นายวิเชียร  พุฒิวิญญู  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ หรือ ทางภาคเหนือจะเรียกว่า “งานประเพณีปีใหม่เมือง” ถือเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ของชาวเหนือ ซึ่งปีนี้หลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันสืบสานประเพณีวัฒนธรรม และจัดกิจกรรมพิเศษขึ้นมากมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และถือเป็นประเพณีที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เดินทางมาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ในจังหวัดเชียงใหม่ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเป็นช่วงของวันหยุดยาวจึงทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวเพื่อร่วมงานสงกรานต์หรืองานปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ได้พำนักในจังหวัดเชียงใหม่หลายวัน ส่งผลทำให้ภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนี้มีเงินสะพัดเข้ามาในจังหวัดจำนวนมากด้วย ดังนั้น จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความอบอุ่น ร่วมแต่งกายพื้นเมือง อู้กำเมือง และเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสุภาพ เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวซึ่งจะนำสิ่งที่ได้สัมผัสจากชาวเชียงใหม่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีหญิงงาม วัฒนธรรมประเพณีที่สวยงาม น่าชื่นชมไปกล่าวขานหรือบอกต่อแก่ญาติ พี่น้อง เพื่อน หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งก็จะสร้างแรงดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในช่วงงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองว่า จะมีการสรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญของเมืองในวันสังขารล่อง (13 เม.ย.57) การขนทรายเข้าวัดในวันเนาว์ (14 เม.ย.57) และการไปทำบุญที่วัด ในวันพญาวัน (15 เม.ย.57) และหลังจากนั้นก็จะเป็นการรดน้ำดำหัวซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้    ผู้อ่อนวัยกว่าได้ขอสูมาและขอพรจากผู้สูงอายุ ผู้สูงวัยกว่า หรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้พบปะญาติ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วย

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองที่หลายภาคส่วนจัดขึ้นในช่วงงานปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย เทศบาลนครเชียงใหม่ซึ่งจัดขึ้นตามวัดหรือสถานที่ต่าง ๆ รอบเมืองเชียงใหม่ เช่น การจัดงานสรงน้ำพระ  การจัดเจดีย์ทรายสุดส้าว สรงน้ำพระ ปั๋นปอน และการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่วัดเจ็ดลิน งานสมโภช      พระสิงห์ การแสดงแสงสีเสียง “เล่าข๋านต๋ำนาน 718 ปี๋ นพบุรีศรีนครพิงค์” ณ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์-ประตูท่าแพ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

     13 เมษายน 2557 พิธีทำบุญตักบาตรและพิธีเปิดงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ประจำปี 2557 ขบวนแห่การประกวดแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้องล้านนาไทยในอดีต การประกวดเครื่องสักการะล้านนา หมากสุ่ม หมากเบ็ง      พิธีอาราธนาพระพุทธสิหิงค์ ประดิษฐานบนรถโดยมีการแห่รอบเมืองเชียงใหม่เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสักการะและสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล

14 เมษายน 2557 พิธีแห่ขบวนไม้ค้ำสะหลีและขนทรายเข้าวัด

12, 15 เมษายน 2557 เวลา 19.30 – 20.30 น. กำหนดจัดการแสดงแสง สี เสียง “เล่าขานต๋ำนาน 718 ปี นพบุรีศรีนครพิงค์เจียงใหม่” ณ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และ ประตูท่าแพ

    13-14 เมษายน 2557  เวลา 19.00 – 24.00 น. การประกวดเทพี-เทพบุตรสงกรานต์และศิลปะพื้นบ้านล้านนา  ณ  ข่วงประตูท่าแพ

     13-15 เมษายน 2557 ร่วมกิจกรรมอุโมงค์น้ำ “สุขก๋าย  เย็นใจ๋  ปลอดภัย ไร้แอลกอออล์” กิจกรรม “สืบฮีต  สานฮอย  ย้อนรอยปี๋ใหม่เมือง 718 ปี          – เวลา 18.00 – 24.00 น. และ การประกวดเทพี-เทพบุตร     ยี่เป็งเชียงใหม่ ณ ข่วงประตูท่าแพ

ทั้งนี้กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้  เทศบาลนครเชียงใหม่ร่วมกับ สสส. มีการรณรงค์ให้ประชาชนทุกท่านงดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ห้ามดื่มและห้ามจำหน่ายในที่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้จัดงาน “ปี๋ใหม่เมือง ดอกเอื้องงาม” ภายใต้ชื่องาน “ย้อนยุควันวาน แอ่วสงกรานต์ล้านนา”  ระหว่างวันที่ 11 – 16 เมษายน 2557 เวลา 08.00 – 19.00 น. โดยกิจกรรมภายในงานนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศสงกรานต์ล้านนาที่งดงาม ซึ่งได้มีการประดับด้วยตุงแบบล้านนาทั่วบริเวณการจัดงาน ชมการประกวดกล้วยไม้ไทยหลากหลายชนิดจากชมรมกล้วยไม้ล้านนา สรงน้ำพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล ร่วมก่อเจดีย์ทราย กาดหมั้วครัวฮดม และชุ่มเย็นกับการรดน้ำปีใหม่อย่างสุเทพ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่โดยหลายภาคส่วนได้ร่วมกันจัดขึ้นในครั้งนี้

สำนักข่าว

จังหวัดเชียงใหม่เชิญร่วมชมนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020” 15 – 19 พ.ย.นี้

การจัดนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้     ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020” ที่จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤศจิกายน 2556 ณ เชียงใหม่ฮอล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงใหม่แอร์พอร์ต การจัดนิทรรศการจะแบ่งเป็นส่วนๆ ที่ง่ายต่อความเข้าใจเป็นการนำเสนอข้อมูลผ่านภาพ เสียงและสื่อมัลติมีเดีย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน 9 โซน โดยเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมชมนิทรรศการดังกล่าว ทั้งนี้จังหวัดได้จัดสถานที่จอดรถพร้อมจัดรถรับ–ส่งฟรีถึง 5 แห่ง

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจัดนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ประชาชนในทุกๆ ภาคได้รับทราบ ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับประชาชนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงจะได้รับประโยชน์อะไร ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเดินทาง และชีวิตความเป็นอยู่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศในการเพิ่มศักยภาพของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนด้วยการเชื่อมต่อโอกาสของประเทศเข้าด้วยกันกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ระดับโลก นอกจากนี้ ยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่จะให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ทั้งด้านการท่องเที่ยว การกระจายความเจริญ   สู่ชุมชนและเมืองต่างๆ สร้างความเจริญเติบโตให้กับชุมชนหรือเมืองขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกล รวมถึงการพัฒนาเมืองใหม่ที่จะทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้อย่างมหาศาล  รัฐบาลจึงกำหนดจัดนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020” ใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย หนองคาย นครราชสีมา ชลบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น นครสวรรค์ ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และ สงขลา โดยการจัดนิทรรศการว่าจะแบ่งเป็นส่วน ๆ ที่ง่ายต่อความเข้าใจเป็นการนำเสนอข้อมูลผ่านภาพ เสียงและ สื่อมัลติมีเดีย แบ่งเป็น 2 ส่วน 9 โซน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 “ก้าวใหม่การพัฒนา เชื่อมไทยสู่โลก” ซึ่งแบ่งเป็น 4 โซน คือ โซนที่ 1 “ทำไมต้องสร้างอนาคตไทย” นำเสนอ 5 ประเด็นหลักที่ผลักดันให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและขนส่ง   โซนที่ 2 “พลิกโฉมคมนาคมไทย” นำเสนอข้อมูลความจำเป็นขณะที่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับอนาคต ประเทศไทยกลับมีระบบคมนาคมที่ตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อาทิ ท่าเรือ ด่าน ถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าคู่  รถไฟฟ้าความเร็วสูง โซนที่ 3  “ระบบรางสร้างอนาคต” นำเสนอข้อมูลเมื่อพิจารณาการคมนาคมทางน้ำ ทางอากาศ และทางถนน ระบบรางตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ทั้งการขนส่งคนตลอดจนการขนส่งสินค้า เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มาก มีรัศมีการเดินทางไม่ถึง 1,000 กิโลเมตร ทำให้ระบบรางรองรับความต้องการได้เต็มศักยภาพและสร้างความสะดวกคล่องตัวให้ประชาชนได้เต็มที่ โซนที่ 4  “It’s not just a Train, it’s the Future” การเชิญชวนสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ โดยจำลองตู้รถไฟในอนาคตให้ชมว่ารถไฟขบวนหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยความสะดวกสบายครบครัน ไม่ใช่เฉพาะความเร็วเท่านั้น แต่ยังมีลักษณะวิถีชีวิตบนความเร็วสูงที่ประชาชนสามารถทำกิจกรรมต่างๆระหว่างการสัญจรได้ อาทิ การใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง(Free Wi Fi), ห้องประชุมงาน (Business Room), มุมเด็กเล็ก(Kid’ Cornor), นวด/สปา(massage), ร้านอาหาร(Restarant), ร้านกาแฟ(Coffee Shop)  สุดท้ายมีการจำลองขบวนรถไฟความเร็วสูงให้ประชาชนได้ทดลองนั่งจินตนาการถึงการเดินทางที่จะพลิกวิถีชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และประเทศในวันข้างหน้า

สำหรับส่วนที่ 2 “ยกระดับทุกมิติ เพื่อคนไทยทุกคน” แบ่งเป็น 5 โซน โดยเริ่มที่ โซนที่ 5 “ภูมิภาค ชีวิตและอนาคต” นำเสนอข้อมูลการศึกษาเส้นทางคมนาคมที่จะปรับเปลี่ยนในแต่ละภูมิภาค ซึ่งนอกจากจะช่วยในการเดินทางในประเทศสะดวกแล้ว ยังช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โซนที่ 6 “ถิ่นนี้ภูมิภาคเรา” นำเสนอรายละเอียดของจังหวัดในภูมิภาคพร้อมศึกษาลักษณะเด่นทางด้านสถานที่ท่องเที่ยวและสินค้าพื้นเมือง นอกจากนี้ยังประมวลความเป็นมาของภูมิภาคนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนความหวังในอนาคต เมื่อมีการพัฒนาระบบคมนาคม โซนที่ 7  “เชื่อมโยงชีวิต เศรษฐกิจ ทุกทิศทั่วไทย” นำเสนอข้อมูลการจำลองตู้รถไฟความเร็วสูงที่นำเอาสินค้าโอทอปขึ้นไปตกแต่งจัดแสดง และประยุกต์เป็นเฟอร์นิเจอร์ นำเสนอรูปแบบตู้รถไฟในอนาคตที่ประกอบไปด้วยห้องประชุมและ service lounge โซนที่ 8 “เมืองใหม่ อนาคตใหม่” นำเสนอข้อมูลการศึกษาต้นแบบเมืองแห่งอนาคตที่จะขยายตัวและเติบโตตามเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ชมตัวอย่างเมืองที่เกิดขึ้นจริงในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยรูปแบบเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไทย โซนที่ 9  “ภูมิภาคเราวันพรุ่งนี้” นำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเมื่อมีระบบคมนาคมที่ทันสมัย โดยผู้เข้าชมสามารถแสดงความคิดเห็นหรือเสนอความต้องการต่างๆ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยบันทึกข้อมูล

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมถึงกำหนดการพิธีเปิดว่าจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15.00 น. โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธี ส่วนกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.ของทุกวัน ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมชมงานดังกล่าว ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเตรียมสถานที่จอดรถสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมชมกิจกรรม พร้อมจัดรถรับ–ส่งฟรีถึง  5  แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต ห้างสรพพสินค้าโลตัส  สาขาหางดง ศูนย์การค้า นิ่มซิตี้เดลี่ ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสุสานประตูหายยา ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมชมนิทรรศการในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

……..ราตรี  จักร์แก้ว      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่                        13 พฤศจิกายน  2556…….

CNXNEWS รายงาน

จังหวัดเชียงใหม่เชิญร่วมพิธีสักการะกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ ประจำปี 2556 วันที่ 17 เมษายนนี้ที่วัดสวนดอก

จังหวัดเชียงใหม่และมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ ร่วมส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น โดยเชิญชวนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวร่วมพิธีสักการะกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ ประจำปี 2556 วันที่ 17 เมษายนนี้ที่วัดสวนดอก พระอารามหลวง

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และคณะเจ้านายฝ่ายเหนือ กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น พิธีสักการะกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ ประจำปี 2556 ในวันพุธที่ 17 เมษายน 2556 ณ บริเวณกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ วัดสวนดอกพระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของอดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ทุกพระองค์ที่ทำให้เมืองเชียงใหม่เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน กิจกรรมภายในงานมีการแสดง แสง สี เสียง เทิดพระเกียรติกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่จากวิทยาลัยนาฏศิลปะเชียงใหม่และกิจกรรม อื่น ๆ อีกจำนวนมากรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการจัดงานได้จัดให้มีริ้วขบวนซึ่งประกอบด้วย ต้นดอก ต้นเทียน ต้นผึ้ง หมากเป็ง หมากสุ่ม ขมิ้นส้มป่อย

โดยตั้งขบวน ณ บริเวณลานหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเวลา 17.30 น. ขบวนอัญเชิญเครื่องสักการะ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะข้าราชการ เจ้านายฝ่ายเหนือ กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษาที่ร่วม แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองจะนำขบวนเคลื่อนออกจากบริเวณที่ตั้ง ณ ลานหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ วัดสวนดอกพระอารามหลวง จากนั้นจะเริ่มพิธีตามประเพณีล้านนา โดยการกล่าวสุมาขออนุญาตดำหัวกู่ การถวายเครื่องสักการะ ถวายพวงมาลัยและรดน้ำบนสายสิญจน์ที่โยงมาจากกู่เจ้าหลวง 10 องค์ การรดน้ำกู่ด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย และลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือ หัวหน้าส่วนราชการและผู้ร่วมพิธีเข้าถวายสักการะรดน้ำ โดยมีการแสดงฟ้อนถวาย ฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตา การแสดงแสง สี เสียงเทิดพระเกียรติกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่จากวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ร่วมแสดงในพิธีด้วย จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวร่วมพิธีและร่วมสืบสานประเพณีล้านนาในวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าว

ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=130406232106

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน