จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับส่วนล่วงหน้าสำนักพระราชวังประชุมเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับส่วนล่วงหน้าสำนักพระราชวังและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่เชียงใหม่วันที่ 24 เมษายนนี้
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.57 ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ เป็นประธานการประชุมเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 24 เมษายน 2557 โดยมีผู้แทนกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนสมุหราชองครักกษ์ ผู้แทนสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ผู้แทนหน่วยแยกรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญประจำกรม ราชองครักษ์ หน่วยงานที่จัดตั้งกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประชุม หลายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.57) ได้มีการเดินทางไปตรวจพื้นที่เสด็จพระราชดำเนิน ฯ ทั้ง 4 ที่หมายเรียบร้อยแล้ว โดยการประชุมในวันนี้เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกำหนดการเสด็จฯ และขั้นตอนการปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับการเสด็จ การจัดเตรียมสถานที่เสด็จพระราชดำเนิน ฯ อย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งการถวายความปลอดภัยและการขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดในด้านต่าง ๆ ด้วย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จมาทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 24 เมษายน 2557 ตามร่างกำหนดการ ดังนี้
เวลาประมาณ 10.30 น. จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 11 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจัดโดยมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและการพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-29 เมษายน 2557 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจะมีนักเรียนผู้เข้าแข่งขันทั่วประเทศ จำนวน 11 ศูนย์
เวลา 12.40 น. เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อทรงเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาและที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นอำเภอที่ 878 และอำเภอสุดท้ายของการจัดตั้งอำเภอของประเทศไทย เป็นอำเภอที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนาจึงเป็นอำเภอเฉลิมพระเกียรติที่ได้รับการจัดตั้งเป็นกรณีพิเศษ โดยประวัติความเป็นมานั้น จังหวัดเชียงใหม่ได้ขอจัดตั้งอำเภอวัดจันทร์เฉลิมพระเกียรติเป็นกรณีพิเศษเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูงในทุกเรื่อง และทรงเลือกให้อำเภอแม่แจ่มเป็นต้นแบบทางการศึกษาของผู้ด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง ให้มีโอกาสทางการศึกษา อักทั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2544 ทรงมีรับสั่งเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่อำเภอแม่แจ่มเนื่องจากเป็นท้องที่อยู่ห่างไกล ทุรกันดาร ราษฎรมีปัญหาในด้านคุณภาพชีวิต การปกครอง และปัญหายาเสพติด โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหากมีการแบ่งแยกเขตการปกครองของอำเภอแม่แจ่ม โดยเอาพื้นที่ตำบลบ้านจันทร์ ตำบลแม่แดด และตำบลแจ่มหลวง ไปร่วมกันจัดตั้งเป็นอำเภอก็จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ริเริ่มโครงการจัดตั้งอำเภอขึ้นใหม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกา ตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2552 และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่ 97 ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2552 เป็นต้นมา ถือเป็นอำเภอลำดับที่ 25 ของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นอันดับที่ 878 ของประเทศ มีเขตพื้นที่การปกครอง ประกอบด้วย 3 ตำบล 22 หมู่บ้าน มีราษฎรทั้งสิ้นประมาณ 11,071 คน โดยร้อยละ 50 เป็นชุมชนชาวเขาหลายเผ่า เช่น กะเหรี่ยง ม้ง ลีซอ เป็นต้น ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ทำสวน และการทอผ้าเป็นอาชีพเสริม
หลังจากทรงเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาและที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา แล้ว จะเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนแล้ว บนเนื้อที่ 88 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา ณ บริเวณบ้านห้วยบง หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอน เป็นแบบกึ่งพักนอนสำหรับเด็ก ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา และเด็กที่พักอาศัยในพื้นที่เขตรอยต่อจังหวัดเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ตั้งแต่ ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นมา
หลังจากนั้นได้เสด็จไปทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดจันทร์ ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นวัดแรกในอำเภอกัลยาณิวัฒนา ที่เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยได้อบรมสั่งสอนชุมชนชาวไทยภูเขาที่นับถือพระพุทธศาสนาให้รูหลักคำสอน เป็นคนดีของสังคม รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งการจัดสร้างอุโบสถแห่งนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนก่อสร้าง ซึ่งได้มีการเบิกผู้มีจิตศรัทธาดังกล่าวเข้าฯ รับพระราชทานของที่ระลึกด้วย ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ ได้เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานกองบิน 41 จากนั้นจะเสด็จประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จกลับกรุงเทพมหานครต่อไป
สำนักข่าว
cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน