วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน

ความปลอดภัยทางถนน2

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเพื่อเตรียมการจัดทำแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2557 ทั้งระดับจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้มีการสนับสนุนและดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นทุกช่องทางตลอดทั้งปี เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน

นายสุริยะ  ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดเชียงใหม่ บรรลุเป้าหมายตามกรอบปฏิญญามอสโกและเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ.2554  ให้มีการสรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนทั้งในช่วงเวลาปกติและช่วงเทศกาลตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้นำเสนอ และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความต่อเนื่อง แนวทางการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนประจำปีทุกปี ทั้งระดับจังหวัด อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องและจริงจัง โดยให้สนับสนุนและดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นทุกช่องทางตลอดทั้งปี เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน

ทั้งนี้ยังมีการประชุมเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการจัดเส้นทางรถจักรยานในเขตเมืองเทศบาลนครเชียงใหม่ ด้วยปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศนิยมขับขี่รถจักรยานเป็นพาหนะเดินทางและท่องเที่ยวในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับการจราจรในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ขับขี่จักรยาน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยาน ในการจัดระเบียบเส้นทางรถจักรยานในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ การกำหนดนโยบายและมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรที่จะเกิดขึ้นกับรถจักรยานในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ กำกับดูแลและเร่งรัดการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้เส้นทางจราจรของรถจักรยานและการป้องกันอุบัติเหตุจราจร

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ โดยด้านการบังคับใช้กฎหมาย ในการรณรงค์ใส่หมวกกันนิรภัย รัดเข็มขัดนิรภัย การปฏิบัติตามกฎจราจร การตั้งจุดตรวจถนนสายสำคัญ และในอำเภอต่างๆ มีการตรวจจับความเร็วในการใช้รถใช้ถนน การตรวจสภาพรถไม่ให้มีการดัดแปลงสภาพรถที่ผิด การรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้นทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนักและเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ทางด้านวิศวกรรมจราจร ในการสำรวจตรวจสอบเส้นทางถนนให้ได้มาตรฐานเพื่อการปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพได้มีการเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง สถิติการออกปฏิบัติการส่วนมากอยู่ในเขตเมือง จะมีการอบรมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ครอบคลุมทุกแห่ง ทั้งนี้จะได้หาทางแก้ไข ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับจังหวัด และพื้นที่นำร่อง 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม อำเภอฝาง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอสันป่าตอง

สำหรับภาพรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าสถิติการบาดเจ็บละเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดเชียงใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เปรียบเทียบปี 2554-2556 พบว่า อัตราการบาดเจ็บต่อแสนประชากร เพิ่มขึ้นจาก 1,830.33 เป็น 1,958.30 และ 2,399.30 อัตราเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 15.79 เป็น 17.26 และ 20.11 อุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ทั้งด้านสภาพถนนที่มีจุดเสี่ยงในหลายอำเภอ พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย เช่นการไม่สวมหมวกและไม่คาดเข็มขัดนิรภัย การดื่มสุราขณะขับรถและการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นต้น

CNX NEWS รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุม

Spread the love

เชียงใหม่จัดประชุมการพิจารณาจัดทำรายละเอียดโครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมการพิจารณาจัดทำรายละเอียดโครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปี 2558  

โดยสำนักยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เชิญหน่วยงานเจ้าภาพโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้โครงการที่มีคุณภาพและสอดคล้องตามหลักเกณฑ์การจัดทำแผนของคณะกรรมการ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.57  เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาจัดทำรายละเอียดโครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยสำนักยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เชิญหน่วยงานเจ้าภาพโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้โครงการที่มีคุณภาพและสอดคล้องตามหลักเกณฑ์การจัดทำแผนของคณะกรรมการ

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมว่า ตามที่ สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ        (ก.น.จ.) แจ้งให้กลุ่มจังหวัดเตรียมความพร้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 โดยใช้กรอบแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 4 ปี (พ.ศ.2557-2560) ไปพลางก่อน เนื่องจากได้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้มีการจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 เมื่อวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2557 เวลา08.30-16.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลลูม ชั้น 2 โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการกำหนดหน่วยงานเจ้าภาพโครงการและกรอบกิจกรรมโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ตามประเด็นยุทธศาสตร์ จำนวน 12 โครงการ

ซึ่งประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมการฟื้นฟูและอนุรักษ์แบบองค์รวมเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศที่สวยงามมีเสน่ห์ ประกอบด้วย โครงการเสริมสร้างและปรับแต่งอัตลักษณ์ เพื่อสร้างเสน่ห์การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โครงการเสริมพื้นฐานทุนทางสังคมและทุนทางธรรมชาติเพื่อบรรยากาศความมั่นคงปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน และโครงการ ECO Village ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมการสร้างสรรค์สินค้าและบริการให้โดดเด่นและมีคุณค่ามุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หัตถกรรมสร้างสรรค์ ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว ประกอบด้วยโครงการที่เป็นอัตลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว โครงการหัตถกรรมสร้างสรรค์สู่สังคม โครงการ LANNA WELLNESS และโครงการยกระดับการแข่งขันสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและมูลค่าเพิ่ม และประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับการพัฒนาการค้าการลงทุน มุ่งเน้นอุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการ (MICE) อุตสาหกรรมบริการการศึกษา และอุสาหกรรมเกษตรแปรรูป เพื่อรองรับการท่องเที่ยว และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประกอบด้วยโครงการจัดงานส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสู่ระดับสากล โครงการพัฒนาบุคคลเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โครงการพัฒนาเชื่อมโยงผู้ประกอบการและนักลงทุนตลอดโซ่อุปทานเพื่อขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โครงการเปิดตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน และโครงการระบบโครงสร้างเมืองรองรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ สำนักบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เชิญหน่วยงานเจ้าภาพโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากการประชุมระดมความคิดเห็นในการประชุมครั้งที่แล้ว เพื่อพิจารณาจัดทำรายละเอียดโครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ร่วมกัน เพื่อให้ได้โครงการที่มีคุณภาพและสอดคล้องตามหลักเกณฑ์การจัดทำแผนของคณะกรรมการ ก.น.จ. หลังจากนั้นจะได้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (อ.ก.บ.ก.) ด้านการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีกลุ่มจังหวัด และคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป.

 

 

ำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2557 และการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหา ภายใต้ชื่อ “80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่” โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ (นายชนะ แพ่งพิบูลย์) ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมดำเนินงานในครั้งนี้

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.57   เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เพื่อสรุปสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2557 พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าวตลอดห้วงระยะเวลาของการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 ภายใต้ชื่อ “80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่” จนสถานการณ์คลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ขึ้น ณ ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 2 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2557 พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานประจำศูนย์ ฯ ขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยมีการประชุมทุกวันพุธเพื่อร่วมกันวิเคราะห์สภาพปัญหาและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในปี 2557 คุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมโครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโรง มีค่าระหว่าง 17 – 282 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี-มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบค่า PM10 เกินค่ามาตรฐานที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2557 โดยมีค่า PM10 จำนวน 282 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI จำนวน 171 ส่วนค่า PM10 ต่ำสุดซึ่งตรวจวัดได้จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่า PM10 ได้ 17 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI จำนวน 21 จำนวนวันที่พบค่า PM10 เกินมาตรฐาน ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวน 18 วัน ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีจำนวน 16 วันสำหรับสถิติการรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่าสะสม ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 รวม 942 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย จำนวน 9,147 ไร่ โดยเกิดเหตุไฟป่าสูงสุดที่อำเภอจอมทอง 130 ครั้งพื้นที่เสียหาย 1,734 ไร่ รองลงมาคืออำเภอดอยสะเก็ด 125 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 1,355 ไร่ การเกิดจุด Hotspot สะสม จำนวน 2,381 จุด พบการเกิดมากที่สุดในพื้นที่อำเภออมก๋อย 655 จุด รองลงมาคือ อำเภอแม่แจ่ม 439 จุด 

 

 

ำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเพื่อหารือแนวทางป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2557

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเพื่อหารือแนวทางป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2557

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเพื่อหารือแนวทางป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2557 โดยประธานการประชุมได้อ่านสารนายกรัฐมนตรีเนื่องใน “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” ด้วย

วันนี้ (22 พ.ย.56) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 5/2556 เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ ปรับปรุงแก้ไข พัฒนาแนวทางการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้งในช่วงปกติและช่วงเทศกาลเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานในปี 2557 และการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ทั้งนี้ นางภัชธนิตา สดุดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้สรุปผลการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดเชียงใหม่ตามแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2556 เปรียบเทียบกับปี 2555 ให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งตลอดปีพบการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้น 5,029 ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.21% จำนวนผู้เสียชีวิต 320 ราย ลดลง 6.30% สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุพบเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนดมากที่สุดร้อยละ 32.59 รองลงมาคือการตัดหน้ากระชั้นชิดร้อยละ 13.04 ขับรถตามกระชั้นชิด 7.60 และเมาสุราร้อยละ 2.5 ด้านประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 47.82 รองลงมาคือปิกอัพร้อยละ 25.03 และรถเก๋ง ร้อยละ 19.64 ส่วนประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุ พบเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินมากที่สุดร้อยละ 46.21 รองลงมาคือ ถนนในเมือง ร้อยละ 22.21 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 14.50 และถนนทางหลวงชนบท ร้อยละ 14.05

สำหรับแผนบูรณการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2557 จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 2 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากมีการใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา และพาครอบครัวออกไปสังสรรค์ รื่นเริงและท่องเที่ยว ประกอบกับจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศนิยมเข้ามาท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดจำนวนมาก ทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ และสูงกว่าจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งจากข้อมูลศูนย์อำนวยการความ

ปลอดภัยทางถนน ระหว่างปี 2553 – 2556 พบว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่มีอุบัติเหตุเฉลี่ยวันละ 16 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 1.6 คน โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2556 มีจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 141 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 147 คน และเสียชีวิต 14 ราย ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากรถจักรยานยนต์ เฉลี่ยถึงร้อยละ 84.19 โดยมีสาเหตุจากเมาสุราขณะขับรถเป็นอันดับหนึ่ง ถึงร้อยละ 39.06 รองลงมาเป็นการขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 18.45 ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 รัฐบาลจึงได้กำหนดแผนบูรณาการในการดำเนินงานป้องกัน ฯ โดยร่วมกับหน่วยงานและองค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นใช้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในการลดปัจจัยเสี่ยงทั้งจากคน ยานพาหนะ ถนนและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น โดยกำหนดหัวข้อหลักของการรณรงค์ว่า “ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” โดยดำเนินการตาม 6 มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านการบริหารจัดการ มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการด้านวิศวกรรมจราจร มาตรการด้านประชาสัมพันธ์ และมาตรการด้านการแพทย์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ โดยกำหนดมาตรการเน้นหนัก คือ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่หรือโดยสารยานพาหนะ การควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเพิ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกชนิดทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เน้นบทบาทการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน เป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงเตรียมความพร้อม ระหว่างวันที่ 1 – 26 ธันวาคม 2556 และช่วงปฏิบัติการเข้มขัน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 2 มกราคม 2557 ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรทางถนนและการตั้งจุดตรวจและจุดบริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ขึ้นในทุกอำเภอ นอจากนั้นยังได้กำหนดจัดงานวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2556 ณ ข่วงประตูท่าแพด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้อ่านสารนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในงานวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) ประจำปี 2556 ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันอาทิตย์

สัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” เพื่อให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน และร่วมกันรำลึกถึงผู้ประสบอุบัติเหตุและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน จากนั้นได้มีพิธีมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดข่วงสิงห์ที่ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ผู้ปกครองมาโรงเรียนแต่ไม่มีหมวกนิรภัย เพื่อใช้สวมใส่เพื่อสร้างความปลอดภัยจากการโดยสารรถจักรยานยนต์ต่อไป

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ราตรี จักร์แก้ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ 22 พฤศจิกายน 2556

CNXNEWS รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปผลการจัดงานรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปผลการจัดงานรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปผลการจัดงานรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า เพื่อถอดบทเรียน และนำปัญหา อุปสรรคในการดำเนินการมาพิจารณาหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้จัดงานในปีต่อไปมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันนี้ (8 พ.ย.56) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทันตแพทย์หญิงอัมพร เดชพิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานทันสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และเพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านในการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากให้พ้นจากโรคในช่องปาก โดยได้จัดกิจกรรมรณรงค์ใหญ่ ในระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และโรงพยาบาลจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยนำบริการด้านการแพทย์ทั้งการให้บริการทางทันตสุขศึกษา และโรคทั่วไป รวมถึงการจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่ผู้ร่วมงานดังกล่าวด้วย ซึ่งมีเด็ก เยาวชน นักเรียน และประชาชน ไปรับบริการรักษา จำนวน 619 คน โดยรับบริการรักษาโรคทั่วไป 581 คน การรับบริการทางทันตสุขศึกษา  619 คน

ซึ่งเป็นการบริการอุดฟัน ถอนฟัง ถอนฟันคุด ขูดหินน้ำลาย เคลือบหลุมร่องฟัน และบริการ  อื่น ๆ นอกจากนั้นสถานบริการอีก 73 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐต่างสังกัด โรงพยาบาลเอกชน รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งได้ร่วมรณรงค์ให้บริการทางทันตสาธารณสุขในวันที่ 21 ตุลาคม 2556 โดยมีผู้ขอรับบริการทั้งหมด 7,429 คน ซึ่งผลการจัดกิจกรรมใหญ่ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ พบปัญหาอุปสรรคในการจัดกิจกรรมคือ สภาพอากาศที่มีเมฆฝนจำนวนมาก ทำให้การเตรียมงานเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้น จึงเสนอให้การจัดกิจกรรมรณรงค์ในปีต่อไป ควรจัดในห้องประชุม ควรมีการจัดเตรียมเวชภัณฑ์ทันตกรรมให้เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ควรมีการประชุมเตรียมความพร้อมอาสาสมัคร เพื่อมอบหมายหน้าที่ในการปฏิบัติงานแต่ละส่วนให้ชัดเจนด้วย ส่วนการประชาสัมพันธ์เป็นไปอย่างกว้างขวางซึ่งวัดจากจำนวนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

หัวหน้ากลุ่มงานทันสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับปัญหาโรคในช่องปากพบในกลุ่มเด็กมากที่สุด เนื่องจากมีพฤติกรรมการเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่ผิด เช่น การใช้ขวดนมหรือการรับประทานขนมหวาน ส่วนในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนระดับประถมปัจจุบันพบปัญหาคงที่เนื่องจากมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดพฤติกรรมด้านการรักษาสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้อง นอกจากนั้นในกลุ่มผู้สูงอายุก็เริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพช่องปากมากขึ้นซึ่งส่งผลทำให้สุขภาพฟันแข็งแรงมากขึ้น และลดการสูญเสียฟันลง สำหรับการรณรงค์ให้ความรู้ทางทันตสาธารณสุขนั้น ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมทั้งมีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปให้บริการแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล การคมนาคม   ไม่สะดวก กว่า 10 ครั้งต่อปี ซึ่งก็จะสามารถทำให้โรคเกี่ยวกับช่องปากลดน้อยลงด้วย

……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ราตรี  จักร์แก้ว                สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่                    8 พฤศจิกายน  2556

 

CNXNEWS รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชนเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชนเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมจัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2556

วันนี้ (11 ต.ค.56) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมศูนย์อำนวยความเป็นธรรม ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ นายสุรพล  สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมหารือเตรียมจัดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2556  เพื่อเผยแพร่ข้อมูลโครงการให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงและสร้างความรู้ ความเข้าใจในภาพรวมของแผนงานหลักที่จะดำเนินการตลอดจนได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ฯ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 ซึ่งจะดำเนินการใน 36 จังหวัดในพื้นที่โครงการ ฯ ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้เลื่อนการจัดรับฟังความคิดเห็นจากเดิมวันที่ 28 ตุลาคม 2556 เป็นวันที่ 30 ตุลาคม 2556 โดยกำหนดจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการรับฟังความคิดเห็นและการจัดนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ในช่วงเช้าของวันดังกล่าว  ซึ่งช่วงบ่ายจะเป็นการแบ่งกลุ่มย่อยออกเป็น 20 กลุ่มเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลตามโครงการดังกล่าว โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ประชาชนในพื้นที่ดำเนินงานโครงการที่กำหนดไว้ในแผนแม่บท ซึ่งประกอบด้วย  ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง และ และประชาชนและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านอำเภอ กลุ่มที่ 2 เป็นประชาชนที่ลงทะเบียนทาง Web site สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กลุ่มที่ 3 เป็นประชาชนที่สนใจและเดินทางมาร่วมแสดงความคิดเห็นภายในงานเอง รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดทำเอกสารเผยแพร่ข้อมูลภาพรวมโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย จำนวน 9 แผนงาน (Module) ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ โดยมีพื้นที่ที่มีการก่อสร้างจำนวน 36 จังหวัด ซึ่งแนวคิดในการดำเนินโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยเป็นการดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศและมีความเชื่อมโยงเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สอดคล้องเป็นระบบเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรของประเทศมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศโดยทั่วถึงและเท่าเทียม และเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาอุทกภัยร้ายแรงขึ้นอีกในอนาคต รัฐบาลจึงได้จัดทำแผนแม่บทสำหรับบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนขึ้น ประกอบด้วย แผนระยะเร่งด่วนและแผนระยะยาว โดยแบ่งออกเป็นแผนการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 8 ลุ่มน้ำ และในลุ่มน้ำอื่น 17 ลุ่มน้ำ

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เกิดขึ้นจากภาวะวิกฤตการณ์อุทกภัยในปี 2554 ซึ่งส่งผลทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายทั้งระบบเศรษฐกิจของประเทศ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 16,224,302 คน บ้านเรือนเสียหาย 5,247,125 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรกรรมเสียหายสูงขึ้น 11.20 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท รัฐบาลจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องบูรณะและฟื้นฟูประเทศ โดยมีสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบดำเนินการโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศไทยภายใน 5 ปี แบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ 9 แผนงานหลัก (Module) ภายใต้งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ดังนี้

พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (พื้นที่ A) ประกอบด้วย 6 Module ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นการดำเนินโครงการใน Module A1 การสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ยม น่าน สะแกกรัง และป่าสัก เพื่อบริหารจัดการน้ำการชลประทานโดยเน้นการป้องกันน้ำท่วม ใช้งบ 48,550,894,000 บาท ก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี จำนวน 18 อ่าง โดยอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่ขาน ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และอ่างเก็บน้ำแม่แจ่ม ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนพื้นที่ 17 ลุ่มน้ำ (พื้นที่ B) ประกอบด้วยแผนงานหลัก 3 แผนงาน ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง การจัดทำผังการใช้ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำรวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจหลักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานใน 17 ลุ่มน้ำ และ การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก และป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านน้ำของจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รับการจัดสรรงบประมาณ พ.ศ. 2556 และมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหน่วยดำเนินการ ประกอบด้วย โครงการฟื้นฟู บูรณะแหล่งน้ำเดิม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย จำนวน 4 โครงการ งบประมาณ 6,953,000 บาท (หกล้านเก้าแสนห้าหมื่นสามพันบาทถ้วน) และ โครงการป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก และโคลนถล่ม โดยใช้โครงสร้างปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 โครงการ งบประมาณ 3,896,000 บาท (สามล้านแปดแสนเก้าหมื่นหกพันบาทถ้วน)

…………………………………………………………………………………………………………………………………..

ราตรี  จักร์แก้ว                           สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่     11  ตุลาคม 2556

สำนักข่าว cnxnews รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมโครงการพัฒนาเมือง

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมือง

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมือง ครั้งที่ 1/2556 ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรี หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น เพื่อร่วมพิจารณากำหนดกรอบโครงการพัฒนาเมือง พร้อมชี้แจงแนวทางการเสนอโครงการฯเพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนให้แก่ผู้นำชุมชน

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการโครงการพัฒนาเมือง ครั้งที่ 1/2556 พร้อมกล่าวว่า โครงการพัฒนาเมืองนั้นเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีแนวคิดการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นพลเมืองในการที่จะร่วมคิดร่วมทำและแก้ปัญหาของชุมชนอย่างรับผิกชอบร่วมกัน อีกทั้งเพื่อสนับสนุนให้เกิดเมืองน่าอยู่เมืองปลอดภัย เมืองแห่งสุขภาพ เมืองที่มีพื้นที่สร้างสรรค์ เป็นแหล่งผ่อนคลายให้ประชาชน

ด้านนายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าขอบเขตการดำเนินโครงการได้แก่พื้นที่ชุมชนเมืองในเขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง โดยมีผู้เสนอโครงการที่ประกอบด้วยหมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้านจัดสรร อาคารชุดที่รวมตัวกันตั้งแต่ 100 หลังคาเรือน หรือจะเป็นกลุ่มหมู่บ้าน กลุ่มชุมชน กลุ่มหมู่บ้านจัดสรร ที่รวมตัวกันตั้งแต่ 100 หลังคาเรือน และกลุ่มประชาชน ที่ร่วมตัวกันตั้งแต่ 50 หลังคาเรือนขึ้นไป

ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จึงได้ทำการแต่งตั้งคณะทำงานย่อยโครงการพัฒนาเมืองขึ้นโดนมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีเทศบาลนคร เป็นคณะทำงาน และ ท้องถิ่นจังหวัด หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านประจำจังหวัด เป็นคณะทำงานและเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ในการกลั่นกรองพิจารณาให้ความเห็นประกอบการพิจารณาโครงการให้เป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการฯได้กำหนดและเสนอ พร้อมทั้งร่วมติดตามและรายงานความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค ให้ทรายทุกระยะของการดำเนินงาน ซึ่งลักษณะโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนต้องมีลักษณะที่ส่งเสริมการจัดการ แก้ไข  ป้องกัน ฟื้นฟู และลดการจัดระเบียบความแออัดของชุมชนให้อยู่ในรูปแบบประชาธิปไตยอย่างมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นโครงการที่เสริมสร้างความเข็มแข็งให้ครอบครัว สร้างสรรค์พื้นที่ในการดูแลเด็กและคนชราให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล

สำหรับโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่มีผู้เสนอโครงการแลได้ผ่านการนพิจารณา จาก 10 โครงการในรอบแรก ได้ผ่าน 2 โครงการคือ  โครงการธนาคารกิ่งไม้ ใบไม้ ของชุมชนบ้านอุโมงค์ และชุมชนบ้านป้าจี้ เทศบาลเมืองแม่เหียะ ,โครงการแหล่งอาหารปลอดภัย (ข้าว ผัก น้ำ) ใส่ใจชุมชน ฯลฯ ส่วน 8 โครงการที่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ทางปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ จะส่งคืนให้ผู้เสนอโครงการได้กลับไปแก้ไขในส่วนที่ยังไม่ผ่าน เพื่อนำกลับมาพิจารณาในที่ประชุมครั้งต่อไป โดยทางสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะจัดประชุมคณะทำงานโครงการพัฒนาเมือง ในสัปดาห์แรกของทุกเดือนต่อจากนี้ไปเพื่อร่วมกันพิจารณาโครงการต่างๆที่ส่งเข้ามาจากผู้เสนอโครงการ ในกรณีที่ในช่วงเดือนนั้นมีโครงการจำนวนมาก อาจมีการประชุมคณะทำงานมากกว่า 1 ครั้ง และเมื่อคณะทำงานฯต่างพิจารณาเห็นชอบโครงการ จะจัดส่งโครงการที่เรียงตามลำดับคะแนน พร้อมคะแนนรายโครงการและเหตุผลประกอบการพิจารณาของคณะทำงานฯให้กรมส่งเสริมการปกครอง  ในกรณีสำหรับโครงการที่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ทางคณะทำงานฯจะจัดส่งโครงการพร้อมเหตุผลประกอบกลับไปยังผู้เสนอโครงการเพื่อให้โอกาสกลับไปแก้ไขแล้วนำกลับมาเสนออีกครั้ง

ในส่วนของชุมชน หมู่บ้าน ที่ต้องการเสนอโครงการพัฒนาเมือง สามารถจัดทำโครงการขึ้นแล้วเสนอได้ที่ท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันนนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2556 เพราะโครงการพัฒนาเมืองนี้ จะเสริมสร้างวัฒนธรรมความเป็นพลเมือง และปลูกฝังค่านิยมประชาธิปไตยให้แก่คนเมือง.

 

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปี 56

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปี56

 

                จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมสรุปสถิติ การเกิดอุบัติเหตุพร้อมปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมทางไกลระหว่างคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วม ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 จังหวัดเชียงใหม่ และ ศูนย์ ฯ อำเภอทั้ง 25 อำเภอ เพื่อสรุปสถิติการเกิดอุบัติเหตุพร้อมปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลด อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่  18 เม.ย.56 ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมทางไกลระหว่างคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 จังหวัดเชียงใหม่ และ ศูนย์ ฯ อำเภอทั้ง 25 อำเภอ เพื่อสรุปผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 โดยเมื่อวันที่  (17 เม.ย.56) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ ฯ จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 10 ครั้ง มากกว่าปี 2555 จำนวน 1 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 11.11 อำเภอที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงสุดได้แก่ อำเภอสะเมิงและอำเภอสันกำแพง อำเภอละ 2 ครั้ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ แม่ริม สันทราย หางดง ฮอด และ ไชยปราการ อำเภอละ 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดในพื้นที่อำเภอฮอด โดยมีจำนวนน้อยกว่าปี 2555 จำนวน 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 50 จำนวนผู้บาดเจ็บ 15 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 5 คน มากกว่าปี 2555 จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 36.36 อำเภอที่มีจำนวนผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ อำเภอฮอด และอำเภอไชยปราการ อำเภอละ 3 ครั้ง อำเภอแม่ริม และฝาง อำเภอละ 2 ครั้ง อำเภอที่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม แม่แตง แม่ออน และ กัลยาณิวัฒนา

สำหรับสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 ของจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ 104 ครั้ง มีสถิติมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ รองลงมาคือจังหวัดนครสวรรค์ 97 ครั้ง โดยอำเภอหางดงมีการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 9 ครั้ง รองลงมาคือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่ริม ฝาง สันกำแพง และสันทราย อำเภอละ 8 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 110 คน มีสถิติมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศเช่นกัน รองลงมาคือจังหวัดนครสวรรค์ และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 99 คน อำเภอที่มีผู้บาดเจ็บมากที่สุดคืออำเภอสันกำแพง 10 คน รองลงมาคือ อำเภอแม่ริมและหางดง อำเภอละ 9 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวน 8ราย นับเป็นอันดับ 9 ของประเทศ โดยอำเภอจอมทอง ฝาง และ ฮอด มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอำเภอละ 2 คน รองลงมาคือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และสันกำแพง อำเภอละ 1 ราย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ยังเป็นการเมาสุราใน ขณะขับขี่รถ 55 ครั้งหรือร้อยละ 37.16 ประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุยังคงเป็นจักรยานยนต์ถึง 89 ครั้งหรือร้อยละ 85.58 ลักษณะสถานที่เกิดเหตุสูงสุดยังคงเป็นทางตรง 66 ครั้งหรือร้อยละ 63.46 เกิดขึ้นบนถนนใน อบต./หมู่บ้านมากที่สุด จำนวน 52 ครั้งหรือร้อยละ 50 รองลงมาคือบนทางหลวง 44 ครั้ง หรือร้อยละ 42.31 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. รวม 38 ครั้ง หรือร้อยละ 36.54 ช่วงอายุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ระหว่างอายุ 30-39 ปี จำนวน 23 คน หรือร้อยละ 19.49 รองลงมาคือ 50 ปีขึ้นไป 21 คน หรือร้อยละ 17.80 ส่วนการเรียกตรวจตามมาตรการ 3ม 2ข 1ร มีการเรียกตรวจ 36,138 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดีจำนวน 10,062 ราย คิดเป็นร้อยละ 27.48 โดยพบการกระทำผิดมากที่สุดคือไม่สวมหมวกนิรภัย 3,812 คันหรือร้อยละ 37.89 รองลงมาคือไม่มีใบขับขี่ 3,689 คัน หรือร้อยละ 36.66 ส่วนเมาสุราขณะขับรถมีจำนวน 315 คัน หรือร้อยละ 3.13

ด้านกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วม มีตำรวจเป็นกำลังหลัก รองลงมาคือ สมาชิก อปพร. กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามลำดับ มีการตั้งด่านตรวจ จำนวน 50 จุด มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทั้งหมด 10,188 คน เฉลี่ย 29.11 คน/จุด และเฉลี่ย 2 จุด/อำเภอ ด้านการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน มีจุดบริการประชาชน จุดตรวจร่วมบนถนนสายรอง และอาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของจุดตรวจทุกแห่งที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ เข้มแข็ง และเสียสละ นอกจากนั้นได้เน้นย้ำให้นำข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุไปวิเคราะห์หาสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุ และนำเป็นแนวทางของการดำเนินการณรงค์ในปีต่อไป เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด รวมทั้งขอความร่วมมือทุกอำเภอได้สร้างความตระหนักในความรับผิดชอบต่อสังคม และป้องกันตนเองแก่ประชาชนในพื้นที่ และใช้โอกาสในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในทุกระดับในการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุลงได้ในที่สุด จากนั้นได้กล่าวขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ และกล่าวปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล สงกรานต์ ปี 2556 ในเวลาประมาณ 15.00 น.

 

ขอบคุณที่มา http://region3.prd.go.th

 

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมขับเคลื่อนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ปี 2556

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมขับเคลื่อนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ปี 2556

 
จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จังหวัดเชียงใหม่เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ปี 2556 เพื่อสร้างกระแสการตื่นตัวและเฝ้าระวัง สร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาเครือข่ายทางวัฒนธรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่านิยมและวิถีชีวิตของคนในสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วานนี้ (13 มี.ค.56) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ดร.เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2556 โดยมีสาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย การปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุติ) เป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานอนุกรรมการ ผู้บริหารหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคม ชมรม สถานประกอบการ เป็นกรรมการ โดยมี วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่เสนอนโยบาย ยุทธศาสตร์และมาตรการในการดำเนินการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ของจังหวัด เพื่อดำเนินงานด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ของจังหวัด ประสานงานกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเพื่อดำเนินการด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมทั้งงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์เผยแพร่และให้ความรู้แก่ประชาชน นอกจากนั้นที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดตั้งองค์กรเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในวัดตามโครงการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการจัดการวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยใช้วัดและพระสงฆ์เป็นศูนย์กลาง โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่

เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของวัดและพระสงฆ์ในฐานะเป็นองค์กรพระพุทธศาสนาให้เป็นศูนย์กลางอนุรักษ์วัฒนธรรมและสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ การพิจารณาโครงการประกวด/คัดเลือกสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หัวข้อ เชียงใหม่ : นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม (Chiang Mai : The Most Splendid City of Culture) ซึ่งแบ่งการประกวดออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาซึ่งรวมถึงระดับอาชีวศึกษาหรือเทียบเท่าด้วย โดยมีเงินรางวัลทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ รางวัลชนะเลิศได้รับเงินสด 8,000 บาท รองชนะเลิศ ได้รับเงินสด 6,000 บาท และรางวัลชมเชย ได้รับเงินสด 4,000 บาท โดยทีมที่ชนะทุกรางวัลจะได้รับโล่ด้วย โดยนักเรียน นิสิต นักศึกษาหรือเยาวชนที่สนใจยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ หรือทาง E-mail ที่ culture _cm@hotmail.com พร้อมเรื่องย่อภาพยนตร์สั้นความยาว 1 หน้ากระดาษ A4 โดยดาวน์โหลดใบสมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.culturecm.com ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2595-6

ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=130314101230

 

สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน

 


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเพื่อพิจารณาคัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเพื่อพิจารณาคัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย 

 

ตามโครงการพัฒนาประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน  สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเดือนมีนาคม 2556 โดยมีเยาวชนจาก 6 สถาบันการศึกษา รวม 10 คน สมัครเข้ารับการคัดเลือก

วันนี้ (31 มค 56) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วิรุฬ   พรรณเทวี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน    การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย (สัมมนาเชิงปฏิบัติการ)ประจำปี 2556 เพื่อคัดเลือกเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 คน เข้ารับการกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย (สัมมนาเชิงปฏิบัติการ) ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 20 – 29 มีนาคม 2556 ณ สถาบันวิชาการ    ที โอ ที จังหวัดนนทบุรี

หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย (สัมมนาเชิงปฏิบัติการ)ประจำปี 2556 เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการพัฒนาประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน  ดำเนินการโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและเข้าใจช่องทางการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์ วิถีความคิด วิถีชีวิต คุณธรรม จิตสำนึกและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยให้ทุกจังหวัดพิจารณาคัดเลือกเยาวชนที่มีอายุระห่าง 15 – 20 ปี เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จังหวัดละ 4 คน เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยแยกเป็น 2 รุ่น ๆ ละ 2 คน

สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะฝ่ายเลขานุการได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมตามโครงการยุวชนประชาธิปไตยฯ ไปยังสถาบันการศึกษาต่าง ๆ โดยมีเยาวชนจาก 6 สถาบันการศึกษา ทั้งจากสถาบันการศึกษาสายสามัญระดับมัธยมศึกษา และจากสถาบันการศึกษาพิเศษ รวม 10 คน สมัครเข้ารับการคัดเลือก ซึ่งหลังจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเยาวชนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามโครงการแล้ว จะได้ประกาศผลและแจ้งให้เยาวชนผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 4 คนเข้าร่วมกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย (สัมมนาเชิงปฏิบัติการ)ประจำปี 2556 ณ สถาบันวิชาการ ที โอ ที จังหวัดนนทบุรี ต่อไป

…………………………………………………………………………………………………………………………………

ราตรี  จักร์แก้ว      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่                 31  มกราคม  2556

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายบงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี   พ.ศ.2556 เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการเตรียมการ

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมคณะกรรมการจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี  พ.ศ.2556 เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการเตรียมการของคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ โดยในส่วนของการออกร้านมัจฉากาชาด เริ่มตั้งแต่คืนลองไฟไปจนถึงคืนสุดท้ายของงาน ลุ้นรางวัลใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีผู้สนับสนุนถึง 24 คัน โดยจะนำมาออกรางวัลคืนละ 1 คัน ส่วนการจับสลากการกุศลในคืนวันที่ 11 มกราคม 2556 ได้เตรียมรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส มอบให้กับผู้โชคคีที่ลุ้นโชคกับสลากกาชาด จำนวน 1 คัน

วันนี้ (17 ธ.ค.55) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 ศากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายอดิศร  กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2555 ครั้งที่ 2/2555 เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการเตรียมการของคณะกรรมการฝ่าย   ต่าง ๆ ซึ่งการจัดงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ.2556 ได้เน้นการพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดเชียงใหม่ และโครงการพระราชดำริ ส่วนการออกร้านของอำเภอเน้นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม และศูนย์การเรียนรู้ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2555 – 12 มกราคม 2556 ณ สนามด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่เตรียมจัดงานฤดูหนาวและงานOTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2555 – 12 มกราคม 2556 รวม 13 วัน ณ สนามด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ การพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ของจังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชนได้นำเสนอผลงาน และเฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่ ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ดำเนินการสืบเนื่องติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี โดยการจัดงานในปีนี้จะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ของจังหวัดเชียงใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะมีการแสดงกระบวนการผลิตสินค้า OTOP ที่ไม่ซ้ำกันทุกวัน ซึ่งได้เลือกสรรผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นแสดงภายในงานด้วย อาทิต บูธอาหารฮาลาล สปา SMEs อาหารชวนชิม รวมถึงกาดหมั้ว จัดหลักสูตรสัมมนาประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสินค้า OTOP กำหนดจัดให้มีเวทีการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ผลิต และผู้จำหน่ายและส่งออกด้วย รวมทั้งการนำเสนอโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ส่วนพิธีเปิดงานได้เรียนเชิญ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 มาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณเวทีประกวดนางสาวเชียงใหม่ ส่วนกิจกรรมภายในงานอื่น ๆ ประกอบด้วย การออกร้านแสดงผลงานของส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของ 25 อำเภอจะเป็นการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม และศูนย์การเรียนรู้ฯ ของแต่ละอำเภอ การจำหน่ายสินค้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ OTOP เวทีการแสดงคาราวานสินค้าราคาถูก ร้านอาหารเลิศรสนานาชาติ การประกวดนางสาวเชียงใหม่ การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง มหกรรมสินค้าพื้นเมืองและสินค้า OTOP การแสดงดนตรี แสง สี เสียง รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

นางอินทิรา สุภาแสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ว่า ได้กำหนด ออกร้านมัจฉากาชาด ณ เวทีร้านมัจฉากาชาด บริเวณภายในงานฤดูหนาว ฯ ชิงรางวัลรถจักรยานยนต์คืนละ 1 คัน และรางวัลอื่น ๆ จำนวนมาก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในงานวันรวมน้ำใจช่วยกาชาด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ร่วมสนับสนุนรถจักรยานยนต์มากถึง 24 คัน นอกจากนี้ยังมี ทีวี ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งของอื่น ๆ เพื่อนำมาออกรางวัลในการออกร้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดเริ่มออกร้านตั้งแต่คืนก่อนวันงานหรือคืนวันลองไฟไปจนถึงวันที่ 12 มกราคม 2556 นอกจากนั้นยังมีการจำหน่ายสลากกาชาดการกุศล ในราคาบัตรละ 50 บาท จำนวน 80,000 ฉบับ ชิงรางวัลรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่น วีออส ซึ่งกำหนดออกรางวัลในคืนวันที่ 11 มกราคม 2556 และรางวัลอื่น ๆ อีกจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนกิจกรรมของร้านมัจฉากาชาดของเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ภายในงานดังกล่าว

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ขอบคุณ ข่าวและภาพ จาก ราตรี  จักร์แก้ว   สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

สำนักข่าว
cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน


จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 37

Spread the love

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่  37 ประจำปี 2556 

 

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเตรียมจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่  37 ประจำปี 2556 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยยังคงเน้นการเชิดชูและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมและประเพณีของจังหวัด

นายอดิศร กำเนิดศิริ  ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่เตรียมจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 37 ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 1 – 3 กุมภาพันธ์ 2556 อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งนำรายได้เข้าสู่ประเทศและจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงของการจัดงานในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่ดียิ่งขึ้น โดยการจัดงานปีนี้ยังคงเน้นการเชิดชูและคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ที่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เข้ามาเยือนและร่วมชมงานเป็นอย่างมาก  และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของการจัดงาน จังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการจัดงาน ฯ ขึ้นเพื่อเป็นการนำเสนอผลการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งได้จากการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มีต่อการจัดงานมาหารือร่วมกันและหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้การจัดงานในปีนี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์และสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมชมงานมากขึ้น รวมทั้งได้มีการพิจารณาแนวทางจัดกิจกรรมไม้ดอกไม้ประดับในปี 2556 ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดกิจกรรมไว้ 9 กิจกรรม เพิ่มเติมจากปีที่ผ่านมา 1  กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการประกวดหน้าบ้านน่ามอง นอกจากนั้นยังได้มีการพิจารณาเรื่องการขอพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดรถบุปผชาติงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 37 ประจำปี 2556 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย

ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ร่วมชมงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับครั้งที่ 36 ประจำปี 2555 จากกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้องรวม 2,000 ตัวอย่าง นั้น กลุ่มตัวอย่างได้เสนอแนะในการจัดงานครั้งต่อไปให้มีการจัดเตรียมสาธารณูปโภคให้เพียงพอต่อปริมาณผู้เข้าร่วมชมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องน้ำ ที่นั่งพัก และถึงขยะ ซึ่งต้องดูแลความสะอาดเรียบร้อยตลอดระยะเวลาจัดงาน ควรเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงานและสวัสดิการ เช่น สถานที่จอดรถ เบี้ยเลี้ยงที่เพียงพอให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ควรมีการจัดระเบียบการจราจรให้ดีขึ้นและประชาสัมพันธ์การปิดถนนสายต่าง ๆ ให้ประชาชนและสถานประกอบการทราบอย่างทั่วถึง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดสำหรับประชาชนทั่วไปและการเข้าออกสถานที่พักของนักท่องเที่ยว ควรควบคุมราคาอาหารและเครื่องดื่มภายในบริเวณงานให้เหมาะสม จัดทำป้ายภาษาต่างประเทศและจัดหาเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครที่มีความรู้ภาษาต่างประเทศมาให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวตลอดเส้นทางการจัดงาน ควบคุมการเคลื่อนขบวนไม้ดอกไม้ประดับให้ต่อเนื่อง และ ควรจัดทำแผ่นพับเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานแจกจ่ายในสถานประกอบการ ที่พักและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้การรับรู้เป็นไปอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งข้อเสนอแนะเหล่านี้จังหวัดเชียงใหม่โดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะนำไปเป็นข้อมูลในการดำเนินงานในปีนี้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ถือเอาวันศุกร์ – เสาร์ และ อาทิตย์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ เป็นห้วงระยะเวลาจัดงาน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 1 – 3 กุมภาพันธ์ 2556 ณ บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ สวนสาธารณะหนองบวกหาด และ บริเวณลานเอนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพ ส่วนที่บริเวณลานข่วงประตูช้างเผือก จะมีการประดับประดาบริเวณให้เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมทั้งนำรถบุปผชาติที่ส่งเข้าร่วมงานส่วนหนึ่งนำไปจอดในบริเวณดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้บันทึกภาพ  ซึ่งการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ เป็นการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่อีกกิจกรรมหนึ่ง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ที่เฝ้ารอคอยและเดินทางมาชมงานนี้ ในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการจัดนิทรรศการ การประกวดไม้ดอกไม้ประดับ และการจัดสวน การประกวดขบวนรถบุปผชาติ การแสดงดนตรีในสวนและการแสดงดนตรีของสถาบันการศึกษา การประกวดนางงาม บุปผชาติและนางงามบุปผชาตินานาชาติ การจัดกาดหมั้ว การแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ การตกแต่งเส้นทางและถนนดอกไม้ รวมถึงการจัดมหกรรมอาหาร ส่วนกิจกรรมที่จัดเพิ่มขึ้นในปีนี้คือกิจกรรมการประกวดหน้าบ้านน่ามอง

สำหรับพิธีเปิดงานซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 08.00 น. ณ บริเวณเชิงสะพานนวรัตน์ โดยจะขบวนแห่รถบุปผชาติกว่า 20 ขบวน และพิธีเปิดอันตระการตา ส่วนการประกวดขบวนรถ      บุปผชาติ ได้แบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทสวยงาม ประเภทอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และ ประเภทความคิดสร้างสรรค์ การจัดนิทรรศการและการประกวดไม้ดอกไม้ประดับ ณ บริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด มีการจัดสวนโชว์จากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย สมาคมกล้วยไม้เชียงใหม่ ชมรมเอื้อง   เวียงพิงค์ พระตำหนักภูพิงค์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สวนพฤกษศาสตร์ ชมรมกระบองเพชร ชมรมสับปะรดสี การจัดนิทรรศการไม้ดอกไม้ประดับ และการจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ นอกจากนั้นจะมีการจัดซุ้มถ่ายภาพบริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด และ บริเวณข่วงประตูท่าแพด้วย โดยเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมชมงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 37 ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 1 – 3 กุมภาพันธ์ 2555 นี้

 

ขอบคุณภาพและข่าว จาก ราตรี  จักร์แก้ว        สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

สำนักข่าว

cnx news เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน