วันเสาร์, 20 เมษายน 2567

จดทะเบียนสมรสปลอม

06 ก.ค. 2015
2018
Spread the love

จดทะเบียนสมรสปลอม

เรื่องใหม่ในสังคมไทย…………..

20111022_005

                   มีรายงานข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่าที่ว่าการอำเภอโนนสังขจังหวัด.หนองบัวลำภู ถูกกล่าวหาว่า เป็นอำเภอที่จดทะเบียนสมรสให้กับคู่สมรสระหว่าง “หญิงไทย” กับ “ชายชาวต่างชาติ” มากที่สุดในประเทศไทย

               น่าสนใจนะครับ เพราะอะไร ทำไม ถึงต้องถ่อสังขารไปจดทะเบียนสมรสกันที่นั่น

                สกู๊ปพิเศษของเรา ถือเป็นหน้าที่อีกแล้วละครับ ที่ต้องตามไปสืบเสาะหา ที่มา และที่ไป

               มีข้อมูลที่น่าสนใจ ระบุว่า หญิงไทยที่มีชื่อในการจดทะเบียนสมรสที่อำเภอโนนสังข์ มาจากหลายจังหวัดในประเทศไทย ทั้ง ชลบุรี อยุธยา ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ทำไมครับ ทำไม ต้องเดินทางมาจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้งที่อำเภอโนนสังข์ ไม่มีสัญลักษณ์หรือความหมายใด ที่จะเป็นการเชิญชวนให้ใช้เป็นที่จดทะบียนสมรส แบบ เขตบางรัก ซึ่งมีคำว่า “รัก” จึงถูกเลือกเป็นสถานที่จดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์

              เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอโนนสังข์ ซึ่งย้ายเข้ามาใหม่

              หลังจากที่ นายนันทพล ชุ่มคำ ปลัดอำเภอ ที่ทำหน้าที่นายทะเบียนคนเดิม ถูกย้ายออกไป

               ด้วยข้อหา “ปลอมเอกสารทะเบียนสมรส”

                พฤติกรรมการปลอมแปลงเอกสารทะเบียนสมรสเริ่มขึ้นเมื่อปี 2554 จนกระทั่งในปี 2556 มีการจดทะเบียนสมรสเฉพาะหญิงไทยกับชาวต่างชาติที่อำเภอโนนสังข์มากถึง 611 คู่

นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน เปิดเผยเอกสารเหล่านี้ เพราะต้องการนำคนผิดมาลงโทษและไม่อยากให้หญิงไทยตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากทะเบียนสมรสเหล่านี้ มีสถานะเป็น “ทะเบียนสมรสปลอม” เพราะผู้หญิงที่มีชื่อในทะเบียนสมรส ต่างมีชื่อว่าจดทะเบียนสมรสอย่าง “ไม่รู้ตัว”

เรื่องถูกเปิดเผยเมื่อ นางนก(นามสมมุติ)  หนึ่งในผู้เสียหาย จาก จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เพราะไม่สามารถจดทะเบียนสมรสของตัวเองได้ โดยระหว่างที่เธอเข้าคิวรอเพื่อจดทะเบียนสมรสกับสามี กลับได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ชื่อของเธออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนแล้ว ทำให้เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้นมา และต่อมา นางนก ได้ยื่นฟ้องให้ทะเบียนสมรสที่ถูกปลอมแปลงเป็นโมฆะ ก่อนจะจดทะเบียนสมรสที่แท้จริงกับสามีของเธอ

พอเรื่องถุกเปิดเผย เหตุการณ์นี้ทำให้ นายนันทพล ชุ่มคำ ปลัดอำเภอ ในฐานะเจ้าหน้าที่ทะเบียนอำเภอโนนสังข์คนเดิม ถูกลงโทษทางวินัย ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจดแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยนายนันทพล   (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นนายศรีพีรพล ชุ่มคำ)

ต่อมา นายอนุพงศ์ คำภูแก้ว นายอำเภอเมืองโนนสังข์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสของหญิงไทยกับชาวต่างชาตินั้น ในขั้นตอนที่ถูกต้องนั้น เจ้าตัวที่จดทะเบียนจะต้องเข้ามาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่นายทะเบียนเท่านั้น พร้อมกับต้องพาพยานในการจดทะเบียนสมรสอีก 2 คน ขณะที่นายนันทพล ชุ่มคำ อดีตนายทะเบียนโนนสังที่ถูกสอบวินัยเรื่องนี้ กลับใช้วิธีการคีย์ข้อมูลทะเบียนราษฎ์เพื่อนำเอาชื่อหญิงไทยหลายร้อยคนมาลงชื่อในเอกสารการสมรส พร้อมลงลายเซ็นปลอม ทั้งชื่อบุคคลสมรสและตัวพยาน

     “สิ่งที่เห็นได้ชัดบนเอกสาร คือ ชื่อของหญิงที่เป็นผู้สมรส และชื่อของบุคคลที่เป็นพยานในทะเบียนสมรสปลอม มาจากต่างถิ่น ต่างที่ ต่างจังหวัดกัน ซึ่งก็คาดได้ว่า คนที่มีชื่อเหล่านี้ ไม่รู้จักกัน แต่ถูกนำชื่อมาลงในเอกสารใบเดียวกัน”

ในกระบวนการสอบวินัยของอดีตนายทะเบียน ถูกระบุเพื่อซัดทอดไปถึงเจ้าหน้าที่เทศบาลหญิงรายหนึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ในลักษณะเป็นผู้จัดหารายชื่อหญิงชาวไทยมาทำทะเบียนสมรสปลอมด้วย แต่เจ้าหน้าที่รายนี้ปฏิเสธในขั้นตอนการสอบวินัย แม้เธอจะยอมรับว่า เป็นผู้กรอกข้อมูลในการทำทะเบียนสมรสปลอมจริง แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนด้วย และจำเป็นต้องทำ เพราะได้รับคำสั่งจากคนที่มีตำแหน่งสูงกว่า และการเปิดเผยข้อมูลว่า มีการทำทะเบียนสมรสปลอม มีผลต่อเนื่องไปถึงข้อสงสัยในจุดประสงค์การเข้ามาในประเทศไทยของชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ..

            .ข่าวล่าสุดแจ้งว่า พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 สั่งให้ชุดสืบเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ และตรวจสอบพบรายชื่อชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ส่วนมากเป็นนามแฝงหรือชื่อปลอม ซึ่งหากพบุคคลเหล่านี้จะดำเนินคดี เพิกถอนสิทธิการอยู่ในปะเทศไทย และขึ้นบัญชีดำทันที เพื่อไม่ให้เข้ามายังประเทศไทยได้อีก

อดีตนายทะเบียนใช้ชื่อชาวต่างชาติในการจดทะเบียนสมรสเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ล่าช้ามาก ยากต่อการตรวจสอบรายชื่อในระบบของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งขณะนี้ก็มีการประสานเพื่อขอดูเอกสารข้อมูล โดยประสานกับทาง ตม.อุดรธานีที่เป็นพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีรายงานเข้ามาว่าสามารถหาหลักฐานที่เป็นพาสปอร์ตได้แล้วจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะนำรายชื่อเหล่านี้มาค้นในระบบการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งสามารถเก็บข้อมูลชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าออกประเทศไทยไว้ได้ ก็จะมีการจำแนกประเภทซึ่งพบว่าเป็นสัญชาติที่อยู่ในเป้าหมายทั้งสิ้น คือ อินเดีย ไนจีเรีย เนปาล และอิหร่าน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด” พล.ต.ต.ชาติชาย กล่าว

จากข้อมูลของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)  ระบุว่า ชาวต่างชาติที่ว่าจ้างให้ทำเอกสารสมรสปลอม เกินกว่าร้อยละ 50 มีเจตนาเพื่อเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยอย่างไม่ถูกกฎหมาย  และเมื่อตรวจสอบรายชื่อชาวต่างชาติที่อยู่ในบัญชีทำทะเบียนสมรสปลอมเหล่านี้ พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า รายชื่อส่วนมากเป็นกลุ่มที่มีประวัติการก่ออาชญากรรมในประเทศไทยด้วย

         ทะเบียนสมรสปลอม ถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการเข้าสู่ประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้เป็นเหตุผลเพื่อขอวีซ่าประเภทที่เรียกว่า “เพื่อดูแลภรรยาชาวไทย” ซึ่งมั้นตอนการอนุญาตง่ายกว่าระบบการขอทำวีซ่าตามปกติ โดยเฉพาะกับกลุ่มที่มีประวัติในบัญชีดำ โดยประเทศไทย เป็นหนึ่งในกลุ่มที่อยู่ในแผนของกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้

 

ดังนั้นประเทศไทย จึงจำเป็นต้องปิดช่องโหว่ในการตรวจคนเข้าเมืองด้วยวิธีการทำทะเบียนสมรสปลอม “อย่างเร่งด่วน”

          และจังหวัดเชียงใหม่ จะมีแบบนี้หรือไม่ วานผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วนครับ

ขอขอบคุณข้อมูลของสำนักข่าวอิศรา

 

อรุณ ช้างขวัญยืน.เรียบเรียงและรายงาน

สำนักข่าว CNX NEWS เจาะข่าว ตรงใจคุณ