คุณภาพอากาศที่เชียงใหม่วันนี้ ค่า PM10 และ AQI เกินมาตรฐานเป็นวันแรกของปีนี้
มาตรฐานคุณภาพอากาศที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 11 มี.ค.57 ที่ผ่านมา อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นวันแรก โดยค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 101 ส่วนที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10อยู่ที่ 120 และ AQI วัดได้ 100
นายประหยัด อนันต์ประดิษฐ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชนเพื่อรายงานสถานการณ์และการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของจังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ (11 มี.ค.57) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความร่วมมือสื่อมวลชนขยายผลการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษหมอกควัน และเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักในการมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยกล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบูรณาการของหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2557 เวลา 07.30 น. อำเภอดอยสะเก็ดได้จัดกิจกรรมโครงการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอำเภอดอยสะเก็ด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ณ บริเวณลานหลังวัดพระบาทปางแฟน หมู่ที่ 5 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด โดยมี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี
ในส่วนของคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพเป็นวันแรกของปี โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบค่า PM10 อยู่ที่ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร AQI วัดได้ 101 ส่วนที่สถานี ฯ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10จำนวน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI วัดได้ 100 สำหรับที่สถานี ฯ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นรถโมบาย คุณภาพอากาศยังอยู่ในระดับดี พบค่า PM10 อยู่ที่ 24 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าAQI วัดได้ 30 สำหรับสถิติการรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่าเมื่อวานนี้ (10 มี.ค.57) มีจำนวน 28 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 252 ไร่ ส่วนสถิติสะสมระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2557 มีจำนวน 373 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย จำนวน 3,074.50 ไร่
สำหรับสถิติจุดความร้อนที่คาดว่าเป็นการเผาในที่โล่ง หรือ Hotspot ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.57) มีจำนวน 28 จุด แยกเป็นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 13 จุด พื้นที่ป่าสงวน 13 จุด และ พื้นที่เกษตร 2 จุด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่เกิด Hotspot ได้เข้าไประงับเหตุแล้ว ส่วนสถิติ Hotspot สะสมระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2557 มีจำนวน 578 จุด ทั้งนี้จนถึงขณะนี้ยังไม่การรายงานจำนวนผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบจากมลพิษหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด
รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมโดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนชาวเชียงใหม่ให้งดการเผาทุกชนิด และหากพบเห็นไฟป่าและการเผาในที่โล่ง สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์หมายเลข 0-5311-2725-6 โดยเฉพาะในห้วงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ (21 เม.ย.57) ซึ่งอยู่ในห้วง 80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมมลพิษหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่
สำนักข่าว
cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน