วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ขอความร่วมมืองดการปล่อย โคมลอย โคมควันและดอกไม้เพลิงในช่วงยี่เป็งปี

Spread the love

                จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อย     โคมลอย โคมควันและดอกไม้เพลิงในช่วงยี่เป็งปี 2556

 

เชียงใหม่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย โคมควันและดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือ ยี่เป็ง ประจำปี 2556 เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายร้ายแรงต่อการบินและอากาศยาน

นายชนะ  แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้รับการประสานงานจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการปล่อยโคมลอย โคมควัน และดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลลอยกระทง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายร้ายแรงต่อการบินและอากาศยาน จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติให้ทุกจังหวัดพิจารณาดำเนินการ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่จึงขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจเอกชนและพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย โคมควันและดอกไม้เพลิงในช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือยี่เป็ง ปี 2556 โดยร่วมกันรณรงค์ให้ใช้โคมลอยมาตรฐาน สำนักงานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มผช.808/2552 และใช้โคมควันตามขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยง งด หรือห้ามปล่อยโคมในพื้นที่โซนนิ่งตามแนว ขึ้น-ลงของเครื่องบินในทุกสนามบิน ร่วมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนปล่อยโคมลอยและโคมควันตามช่วงเวลาที่กำหนด ได้แก่ โคมควัน ให้ปล่อยระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น. เฉพาะในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ซึ่งเป็นวันลอยกระทงเท่านั้น  โคมลอย ให้ปล่อยหลังเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 16 – 18 พฤศจิกายน 2556 นอกจากนั้นยังได้ให้อำเภอที่มีการจุดพลุหรือบั้งไฟ ตลอดจนโคมลอย และโคมควันหรือสิ่งที่มีชื่อเรียกอย่างอื่นที่อาจส่งผลกระทบต่อการบินและอากาศยาน เช่น อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย แม่ริม หางดง สารภี สันป่าตอง ดอยสะเก็ด สันกำแพง เป็นต้น ให้ประสานการปฏิบัติงานหรือประสานข้อมูลกับท่าอากาศยานเชียงใหม่ ส่วนมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัย หมายเลขโทรศัพท์ 0-5392-2319 ในวันปกติ เวลา 18.00 – 17.00 ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5392-2274  วันหยุดราชการที่หมายเลข 0-5392-2100

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ประสงค์จะค้าหรือจำหน่ายดอกไม้เพลิงให้ขออนุญาตต่อนายอำเภอในฐานะนายทะเบียนท้องที่ ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ ซึ่งเป็นไปตามความในมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ดอกไม้เพลิงสำเร็จรูป ได้แก่ ประทัดไฟทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (ประทัดยักษ์) ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย รวมทั้งก่อกวนความสงบสุขของประชาชน โดยจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีนโยบายที่จะให้นายทะเบียนท้องที่ออกใบอนุญาตโดยเด็ดขาด และหากผู้ใดมีวัตถุดังกล่าวอยู่ในความครอบครองจะต้องรับโทษตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น เพื่อให้การประชาสัมพันธ์เป็นไปอย่างกว้างขวาง ประชาชนได้รับทราบข้อมูลและมีส่วนร่วมในการรณรงค์ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมประชาสัมพันธ์และเป็นสื่อกลางในการแจ้งข่าวสารแก่ประชาชนต่อไป

 

 

สำนักข่าว

cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน