การรับรู้ของผู้ประกอบกา SMEs เชียงใหม่
เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ดร.ชัยวุฒิ ตั้งสมชัย ศูนย์เตือนภัยธุรกิจภาคเหนือ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เผยผลการสำรวจผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 400 ราย (รวมทุกหมวดธุรกิจ) ในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเดือนที่ผ่านมา ถึงการรับรู้ของผู้ประกอบการ SMEs ใน จังหวัดเชียงใหม่เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ รู้จัก/รับรู้/เคยได้ยิน เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คิดเป็นร้อยละ 94.8 มีเพียงผู้ประกอบการบางส่วนคิดเป็นร้อยละ 5.2 ที่ไม่รู้จัก/ไม่เคยรับทราบ/ไม่เคยได้ยิน เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
อย่างไรก็ตามจากกลุ่มผู้ประกอบการที่ตอบว่า รู้จัก/รับรู้/เคยได้ยิน เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พอถามถึงความรู้ว่าทราบหรือไม่ว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเกิดขึ้นในปีใด และจะมีการรวมตัวกันกี่ประเทศ มีผู้ประกอบการ ร้อยละ 56.5 ที่ตอบถูกว่า AEC จะมีการรวมตัวกันในปี พ.ศ. 2558 และมีผู้ประกอบการเพียง ร้อยละ 24.8 ที่ตอบถูกว่า AEC จะมีการรวมกลุ่มสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ
ผลจากการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ถึงแม้จะเคยรับทราบเกี่ยวกับ AEC แต่ยังมีผู้ประกอบการอีกหลายรายซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของกลุ่มตัวอย่างที่ยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งหรือมองเห็นศักยภาพและความสำคัญของการรวมกลุ่มประเทศ AEC เท่าที่ควร เนื่องจากไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเริ่มต้นที่ปี พ.ศ. อะไร สะท้อนให้เห็นการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่จะเปลี่ยนแปลงไปยังไม่มี และไม่ทราบจำนวนประเทศที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก สะท้อนให้เห็นว่าไม่สามารถมองเห็นศักยภาพหรือขนาดของตลาดใหม่ว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเท่าไร
หลังจากการสอบถามผู้ประกอบการทั้งหมดจำนวน 400 รายว่า รู้จัก/รับรู้/เคยได้ยิน เกี่ยวกับ AEC หรือไม่ ในกลุ่มผู้ที่ไม่เคยรู้จัก AEC มาก่อนจำนวน 21 ราย ผู้จัดเก็บข้อมูลได้อธิบายความหมายของ AEC ให้ฟัง และถามผู้ประกอบการทุกรายว่า จากการรวมตัวกันของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนท่านคิดว่าธุรกิจของท่านได้รับผลกระทบหรือไม่และได้รับผลกระทบในด้านใดมากที่สุด พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.2 คาดว่าไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าไม่สามารถตอบได้ชัดเจนเนื่องจากการรวมกลุ่มประเทศ AEC จะเกิดขึ้นในอนาคต บางรายระบุว่ากิจการของตนเป็นกิจการขนาดเล็กอาจจะไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าถ้ามองโดยภาพรวมแล้วการรวมกลุ่มประเทศ AEC จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีผู้ประกอบเพียง ร้อยละ 19.8 ที่ได้รับผลกระทบจากการรวมกลุ่ม AEC และผลกระทบที่ได้รับส่วนใหญ่คือ (1) การแข่งขันสูงขึ้น ร้อยละ 40.5 (2) คู่แข่งทางการค้าเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 29.1 และ (3) นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.5 จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อธุรกิจส่วนใหญ่จะกังวลในเรื่องของการแข่งขันทางการค้าที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกันดูได้จากผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับ 3 อันดับแรก และถ้าพิจารณาแยกตามหมวดธุรกิจแล้วหมวดธุรกิจด้านการผลิตส่วนใหญ่จะตอบว่าได้รับผลกระทบมากกว่าหมวดธุรกิจให้บริการ ได้แก่ หมวดการผลิตผ้าทอและเครื่องนุ่งห่มจากผ้าทอ หมวดการผลิตหัตถกรรมจากไม้ และหมวดการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ตอบว่า ยังไม่มีการเตรียมการใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม คอยติดตามข่าวสารและรอดูสถานการณ์ไปก่อน ร้อยละ 77.2 รองลงมาคือ ผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานและคุณภาพ ทำสินค้าให้โดดเด่นและตรงตามความต้องการของลูกค้า ร้อยละ 12.7 พัฒนาในทุก ๆ ด้านของกิจการ ร้อยละ 3.8 พัฒนาด้านแรงงาน ร้อยละ 2.5 พัฒนาความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ ร้อยละ 2.5 และ ขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่ม ร้อยละ 1.3 จากคำตอบของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีการเตรียมการใด ๆ ถึงแม้คาดว่าการรวมตัวกันของกลุ่ม AEC จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจ สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังไม่มีการตื่นตัวเท่าที่ควรหรืออาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่มีการรวมตัว AEC ขึ้นจริง ๆ ณ ปัจจุบันนี้ จึงยังไม่มีการเตรียมการที่เห็นได้อย่างชัดเจน
สำนักข่าว
Cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน
