กรีนบัส ประเดิมไตรมาสแรกรายได้เติบโต 47%
กรีนบัส ประเดิมไตรมาสแรกรายได้เติบโต 47% ฉลองครบรอบ 50 ปี จับมือผู้ประกอบการใต้ เปิดเส้นทางใหม่ “แม่สาย-ด่านนอก” เชื่อมต่อการเดินทาง 3 ประเทศ รองรับการเปิดประเทศเข้าสู่ AEC
นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเครือคณะผู้บริหาร เครือ ชัย พัฒนา เชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ ในปีพ.ศ.2557 ปีนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ภายใต้สถานการณ์การเมืองแบบนี้ กรีนบัสยังมีตัวเลขรายได้ในไตรมาสแรกกว่า 156 ล้านบาท เติบโตถึง 47 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ในปี 2556 ตัวเลขรายได้ดังกล่าวมาจาก (1)รายได้รถโดยสารประจำทาง ซึ่งกรีนบัสเข้าไปซื้อกิจการจากบริษัท โชครุ่งทวี ทัวร์ จำกัด ทำให้มีเส้นทางเข้าสู่กทม.เพิ่มขึ้น (2)รายได้จากรถโดยสารไม่ประจำทาง ที่มีผลมาจากธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่ที่ขยายตัวสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวจีน (3)รายได้จากการขนส่งสินค้า (Cargo) โดยเฉพาะการขนส่งผลไม้เมืองหนาว เช่น สตรอเบอร์รี่ และ(4)รายได้จากบริหารจัดการการเดินรถซึ่งในปีนี้กรีนบัส ได้รับความไว้วางใจจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้บริหารรถไฟฟ้าในมช. ส่งผลให้รายได้รวมมีการขยายตัวมากขึ้น”
และในปีพ.ศ. 2557 นี้ ถือเป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปีของกรีนบัส จึงได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษขึ้น เพื่อถือโอกาสขอบคุณลูกค้า “ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 2 ต่อจากคุณพ่อ ผมเห็นวิถีชีวิตของคนเดินทางตั้งแต่สมัยก่อนๆ มาจนถึงปัจจุบัน เรามายืนตรงปีที่ 50 นี้ได้เพราะลูกค้า เราจึงอยากตอบแทนด้วยการให้บริการการเดินทางที่สะดวก สบายมากยิ่งขึ้น จึงทำระบบการซื้อขายตั๋วผ่าน Application บนมือถือ เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคนี้ และเรายังมีการประกวดภาพถ่ายความทรงจำ ความประทับใจ และจัดโปรโมชั่นขอบคุณลูกค้าอีกมากมาย” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้กรีนบัส ยังผลักดันให้เกิดเส้นทางใหม่เพื่อรองรับการเปิดประเทศเข้าสู่ AEC โดยได้ร่วมมือกับบริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ ผู้ให้บริการรถโดยสารในเขตภาคใต้ เปิดให้บริการเส้นทางหมายเลข 877 “แม่สาย – ด่านนอก” ให้บริการจากด่านชายแดนที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปยังด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา รวมระยะทาง 1,888 กิโลเมตร (เส้นทางรถโดยสารประจำทางที่ยาวที่สุดของประเทศไทย) รถออกจากอ.แม่สาย เวลา 07.30 น. และออกจากด่านนอก เวลา 07.00 น. อัตราค่าโดยสารมาตรฐาน V 2,260 บาท มาตรฐาน B 1,695 บาท ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้เส้นทางนี้เดินทางเชื่อมต่อได้ถึง 3 ประเทศ ได้ พม่า ไทย และมาเลเซีย ทั้งนี้เส้นทางดังกล่าว ยังรองรับผู้ประกอบการจากภาคใต้ที่มาลงทุนปลูกสวนยางจำนวนมากในพื้นที่ภาคเหนือ และผู้ประกอบการภาคเหนือที่ไปลงทุนธุรกิจสปาในจังหวัดภาคใต้ จึงทำให้เกิดการเดินทางไป – มา ระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางตรงได้โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนรถที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก
สำนักข่าว
cnxnews เจาะข่าว ตรงใจคุณ รายงาน